ภูมิแพ้กับการพักผ่อน

        โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยที่ร่างกายจะมีปฏิกิริยาไวต่อสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันแบบสังคมเมือง สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ เช่น ฝุ่นควันต่างๆ PM 2.5 ซึ่งส่งผลต่อภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย เมื่อสุขภาพอ่อนแอโรคจึงกำเริบได้ง่าย 

        หากสารก่อภูมิแพ้โรคภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกันพยายามกำจัดสารนั้นออกมาโดยการผลิตสารตัวกลางเพื่อทำหน้าที่ต่อต้านสารแปลกปลอมนั้น แต่ว่าสารตัวกลางก็กระตุ้นให้ร่างกายมีอาการผิดปกติได้เช่นเดียวกัน สำหรับสารก่อภูมิแพ้นั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทของภูมิแพ้  ดังนี้

• ภูมิแพ้อากาศหรือภูมิแพ้จมูก สารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ฝุ่นละออง ส่วนสารอื่นก็เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น ขนสัตว์ เชื้อรา อากาศที่เย็นจนเกินไป เป็นต้น
• ภูมิแพ้ผิวหนัง ส่วนมากจะเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำยาย้อมผม ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ถุงมือยาง โลหะชนิดต่างๆ ทั้งนี้ฝุ่นละอองหรือเกสรดอกไม้ก็กระตุ้นให้เป็นภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นเดียวกัน
• ภูมิแพ้อาหาร อาหารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยมักเป็นอาหารทะเล ถั่ว นม ไข่ แป้งสาลี ธัญพืชบางชนิด เป็นต้น ทั้งนี้อาหารบางชนิดที่ดูเหมือนจะทานได้ทุกคนก็สามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน เช่น มะเขือเทศ กล้วย ขนุน แตงกวา เป็นต้น แต่จะพบได้น้อยกว่าอาหารในกลุ่มแรกมาก
• ภูมิแพ้หลายระบบรวมกัน สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ก็คือสารทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น เพียงแต่ว่าภูมิแพ้ประเภทนี้จะส่งผลต่อระบบร่างกายอย่างน้อย 2 ระบบขึ้นไป เช่น เป็นภูมิแพ้ตาร่วมกับภูมิแพ้อากาศ สาเหตุเกิดจากการได้รับฝุ่นละอองผ่านทางการสูดดมและเยื่อบุตา เป็นต้น

        การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเป็นอีกหนึ่งวิธีการเอาชนะกับโรคภูมิแพ้ เพื่อให้ร่างกายต่อสู้กับสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วยการดูแลตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การทำความสะอาด จัดเก็บพื้นที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย หลีกเลี่ยงและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง หากร่างกายอ่อนเพลียขาดการพักผ่อนก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้โรคเข้ามาได้  การอดนอนจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานหนักขึ้นซึ่งเลือดจะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นและเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะสลายตัวในเวลาต่อมาจึงทำให้ความสามารถของร่างกายในการต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเสียไป การนอนหลับที่มีประสิทธิภาพช่วยซ่อมแซมเซลล์ภายในร่างกายให้แข็งแรง ช่วงหลับสนิทที่สุดของการนอนจะกินเวลาประมาณ 30 - 50 นาที และโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมาในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ร่างกายทำการฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ในอวัยวะต่างๆ รวมถึงการซ่อมแซมเซลล์ผิวให้คงความสดใส ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผิวพรรณ การซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิต้านทานในร่างกาย ทั้งเม็ดเลือดขาว (T Cell, B Cell) และเซลล์เพชฌฆาต (NK cells) ดังนั้นถ้าเรานอนหลับไม่ดีหรือนอนน้อยจึงเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตก เชื้อโรค เชื้อไวรัสอาจโจมตีร่างกายเราได้อย่างง่ายกว่าปกติ การจัดสภาพแวดล้อมของห้องนอนก็สำคัญ เพราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ได้ดี หากนอนในห้องที่มืดสนิท บรรยากาศที่เหมาะสม ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป ร่างกายจะได้ผ่อนคลายความเครียด ทำให้หลับลึก หลับสนิท เป็นการนอนที่มีประสิทธิภาพเพราะร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ 

        จะเห็นได้ว่าการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซม ฟื้นฟู เซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายของเรา แผ่นรองนอนเย็น HIRAKAWA Cool Gelmat นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น คือ อีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้การนอนหลับพักผ่อนเกิดประสิทธิภาพ คืนความสดชื่นให้กับร่างกาย โดย Hirakawa (ฮิราคาว่า) ผลิตด้วยเทคโนโลยี Phase Change Material (PCM) ที่มีการเปลี่ยนสถานะเมื่อถึงอุณหภูมิที่ต้องการ ทำให้อุณหภูมินั้นเกิดกระบวนการดูด-คายความร้อน เมื่อร่างกายได้สัมผัสจึงรู้สึกสบาย ช่วยลดความร้อนส่วนเกิน ทำให้นอนหลับสบายด้วยความเย็นเป็นธรรมชาติจากน้ำ ให้สัมผัสที่เย็นสบาย นอนหลับง่าย และหลับลึกมากขึ้น